วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554


เครื่องถมเมืองนคร

          เครื่องถม  หมายถึง  ภาชนะ  เครื่องใช้ที่ทำด้วยเงินหรือทอง  มีลวดลายแกะเป็นสีเงินหรือสีทอง  ตัดกับสีพื้นหรือสีของน้ำยาสีดำสนิทลวดลายที่เกิดขึ้นบนเครื่องถม   เกิดจากการแกะสลักเป็นลวดลาย เป็นร่องลึกลงไปบนภาชนะแล้วใช้ตัวยา ซึ่งเป็นโลหะผสมที่มีสีดำผสมกับน้ำประสานทอง  หลอมละลายแทรกลงไปในช่องว่างระหว่างลาย เพื่อช่วยให้เห็นลายเด่นชัดขึ้น



ความเป็นมาของเครื่องถมเมืองนคร
          การทำเครื่องถม สันนิษฐานว่าชาวนครศรีธรรมราชได้ความรู้จากช่างโปรตุเกส ซึ่งเข้ามา   ค้าขายอยู่ในเมืองนครศรีธรรมราชตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี  คือ ใน พ.ศ. 2061  ตรงกับรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2  แต่บางท่านกล่าวว่าชาวนครศรีธรรมราชน่าจะรับวิธีการทำเครื่องถมจากอินเดียในระยะก่อนหน้านั้น ฝีมือการเขียนลวดลายและสลักลงบนเนื้อเงินงดงามจนเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าจะหาช่างถมจากบ้านเมืองอื่นมาเทียบไม่ได้จนเป็นที่แพร่หลายเลื่องลือในนามว่า ถมนคร”  ซึ่งต่อมาแพร่ไปสู่กรุงศรีอยุธยาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช    พระองค์ได้รับสั่งให้เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชในสมัยนั้น จัดหาช่างถมเข้าไปทำไม้กางเขนถม เพื่อส่งไปถวายพระสันตปาปา ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี แท้จริงแล้วชาวโปรตุเกสที่เข้ามายังกรุงศรีอยุธยานั้น มิได้นำเอาเครื่องถมเข้ามาเผยแพร่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นไม่  ประเพณีอื่น ๆ  บางอย่างเช่น การชนวัว การมีตลาดนัด  ก็ได้นำเข้ามาเผยแพร่ด้วย  และความนิยมเหล่านี้ได้มีสืบต่อมาและแพร่หลายอยู่ทั่วไปจนกระทั่งทุกวันนี้  เมื่อชาวเมืองนครศรีธรรมราชได้รับวิธีการทำเครื่องถมจากชาวโปรตุเกสมาในคราวนั้นแล้ว  ชาวเมืองนครซึ่งมีความสามารถในทางนี้อยู่แล้ว  ได้ดัดแปลงแก้ไขรูปพรรณและลวดลายต่าง ๆ    ตามแนวนิยมของศิลปกรรมไทยได้ประณีตและสวยงามยิ่งขึ้นประกอบเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชทุกยุคทุกสมัยก็ได้เอาในใส่ทะนุบำรุงอย่างดี และพยายามจัดให้มีการถ่ายทอดวิชานี้สืบต่อมา

ประเภทของเครื่องถมเมืองนคร    เครื่องถมแบ่งเป็น 3 ชนิด
1.)เครื่องถมเงิน หรือที่นิยมเรียกกันว่า ถมดำ ลักษณะเป็นเนื้อถมที่ถมลงไปบนพื้นตามร่องลาย เป็นสีดำมันซึ่งเนื้อถมจะขับลวดลายให้เด่นงดงามอยู่บนพื้นสีเงิน ตามความนิยมถมเงิน หรือถมดำที่ดีจะต้องมีสีดำสนิท ไม่มีตามด (จุดขาวบนสีดำ)


2.) เครื่องถมทอง เป็นการนำเอาถมดำ หรือถมเงินที่ใช้กรรมวิธีตะทอง หรือเปียกทองทำให้ลายสีเงินเป็นสีทองตามทองที่แต้มไว้ แต่แตกต่างกันตรงที่ลวดลาย คือ ลายสีเงินเปลี่ยนเป็นสีทอง ช่างถมจะละลายทองคำให้เหลวเป็นน้ำ โดยการใส่ทองแท่งลงในปรอทแล้วช่างถมจำนำพู่กันมาจุ่มลงในน้ำทองเขียนทับลงบนลวดลายสีเงิน เมื่อเขียนแล้วเสร็จ จะใช้ความร้อนเผ่าไล่ปรอทออกจากทองทองก็จะติดแน่นอยู่บนพื้นที่เขียนด้วยน้ำทองนั้น
3.) เครื่องถมตะทอง คือการนำทองคำบริสุทธิ์ผสมปรอทมาทาเนื้อเงินของถมเงินโดยการระบายเป็นแห่งๆ เฉพาะที่ไม่ใช้การระบายจนเต็มเนื้อที่เหมือนการถมทอง แต่เป็นการแต้มทองในเนื้อที่บางแห่งเพื่อเป็นการเน้นจุดเด่น หรือการอวดลายเด่นๆ การทำถมตะทองทำให้ได้เครื่องถมพื้นลายสีดำ และมีดวกดวงลวดลายเป็นสีเงินสลับกับสีทองเป็นแห่งๆ ตามแต่ช่างจะเลือกสรร




จุดเด่นของเครื่องถมเมืองนคร    
      เครื่องถมไม่ว่าเครื่องถมเงิน เครื่องถมทอง นับเป็นศิลปวัตถุ ที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของชาติ ลักษณะเด่น ของเครื่องถมนคร สามารถแบ่งออกได้ ๒ ลักษณะที่สำคัญ ได้แก่


  • การแกะสลักลวดลาย จะใช้วิธีเขียนร่างลวดลายลงในรูปพรรณของเนื้อเงิน แล้วใช้ฆ้อน และสิ่วสลักตามลวดลายที่ร่างเอาไว้ วิธีการนี้เป็นการย้ำเนื้อโลหะให้ลึกลงไปเท่านั้น ไม่ได้สูญเสียเนื้อเงินไปแต่อย่างใด และจะมีรอยสลักอยู่ทางด้านหลังของรูปพรรณซึ่งจะต้องใช้ฝีมือของช่างเป็นอย่างมากเพื่อที่จะให้ผลงานออกมาด ีและมีคุณค่า ซึ่งแตกต่างจากเครื่องถมทางกรุงเทพมหานคร   ที่ผลิตโดยใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ เข้ามาช่วยในการ เขียนลวดลายบนโลหะเงินรูปพรรณ ซึ่งจะผลิต ได้เร็วกว่าแบบโบราณ ที่ชาวนครทำหลายเท่าตัวทีเดียวและเมื่อมาเปรียบคุณค่าด้านศิลปะก็จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
  • เนื้้้อยาถม เนื้อยาถมที่ดีจะต้องเป็นสีดำมันเวลาลงเนื้อยาถมจะติดแน่นไม่มีรูพรุน หรือที่เรียกกันว่า"ตามด"ยาถมเป็นโลหะผสมระหว่าง เงิน ทองแดง ตะกั่ว และกำมะถัน ซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดสีดำสูตรในการผสมไม่ตายตัวขึ้นอยู่ความชำนาญ และประสบการณ์ของช่างแต่ละคน แม้ว่ามีตำราว่าต้องใช้เนื้อโลหะ เท่านั้น เท่านี้เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่แน่เสมอไปว่าเมื่อผสมตามนั้นแล้วจะได้ยาถมที่ดี
         เครื่องถมนครศรีธรรมราช  แม้จะผลิตได้ไม่มาก แต่ก็ได้รับความนิยมแพร่หลาย ทั้งนี้เพราะ เครื่องถมเมืองนคร ยังคงรักษาคุณภาพของตัวเอง โดยที่มีเนื้อเงินแท้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๙๕ ลวดลายต่างๆ  ยังคงสลักด้วยมือ น้ำยาถมก็มีสีดำสนิทเป็นเงา  เครื่องถมไทย จึงถือได้ว่าเป็นงานประณีตศิลป์ขั้นสูง ที่ต้องใช้ทั้งฝีมือและความประณีต ซึ่งนับวัน งานช่างแขนงนี้ เหลือช่างฝีมือดีน้อยลงทุกทีจึงสมควรอย่างยิ่งที่ต้องมีการอนุรักษ์ และส่งเสริมฟื้นฟู เพื่อสืบสานงานหัตถศิลป์ไทย สาขานี้ให้ดำรงอยู่สืบไป ดังกระแสพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานไว้ "เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๐๘ ว่า จงรักษาศิลปะของชาติอันนี้ไว้ให้ดี "

 ยุคฟื้นฟูวัฒนธรรมของเครื่องถมเมืองนคร


          ด้วยเหตุที่ค่านิยมการเรียนวิชาชีพหรืออาชีวศึกษาในยุคก่อนไม่เป็นที่นิยมของเด็กและผู้ปกครองจึงทำให้จำนวนช่างถมในนครศรีธรรมราชค่อย ๆ ลดลงประกอบกับผลิตภัณฑ์เครื่องถมมีราคาแพง  การประกอบอาชีพช่างถมจึงเริ่มถึงทางต้น รัฐบาลเริ่มให้ความสำคัญต่องานวัฒนธรรม  โดยการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ(สวช.) ขึ้นในปี พ.ศ.2522 หน่วยงานนี้ได้ให้ความสำคัญต่อช่างและศิลปินผู้ผลิตหรือประกอบกิจกรรมทางวัฒนธรรม  โดยการจัดทำโครงการเชิดชูเกียรติผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมสาขาต่าง ๆ เ ป็นประจำทุกปี ด้วยหลักการและเหตุผลของโครงการน ี้   ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช (สถาบันราชภัฎนครศรีธรรมราชปัจจุบัน)   จึงได้สรรหาบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นด้านเครื่องถมในจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติซึ่งผลปรากฏว่ามีช่างถม2คนที่ได้รับการพิจารณาให้เป็น"ศิลปินแห่งชาติ" และ "ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม" คือ นายเห้ง โสภาพงค์ และนายชุ่ม สุวรรณทิพย์ ตามลำดับ

6 ความคิดเห็น: